Safran ENGINeUS 100 รับรองมาตรฐาน EASA: ปูทางสู่การบินด้วยไฟฟ้าในอนาคต

Safran’s ENGINeUS 100 electric motor achieved EASA certification, marking a milestone for electric aviation. This 100 kW motor, designed for smaller aircraft and hybrid planes, is lightweight, efficient, and reliable. The certification validates its safety and paves the way for commercial use, advancing sustainable aviation. Safran’s achievement reinforces its leadership in electric propulsion technology. This advancement benefits ground transportation as well; thermal management and efficiency improvements in aircraft motors can be applied to electric vehicles, enhancing performance and reliability. Similar to the focus on safety and performance in Safran's aviation motors, regular maintenance ensures optimal and safe operation of electric vehicles, unlike combustion engines, EVs require less maintenance with no oil changes or complex exhaust systems, but battery health, brakes, and tires need regular checks. Choosing a specialized EV service center is crucial for proper maintenance and safety.

**Safran ENGINeUS 100 รับรองมาตรฐาน EASA: ก้าวสำคัญของมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับอากาศยาน**

Safran Electrical & Power ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในวงการอากาศยานไฟฟ้า เมื่อมอเตอร์ไฟฟ้า ENGINeUS 100 ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก EASA (European Union Aviation Safety Agency) การรับรองนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของมอเตอร์ ENGINeUS 100 เปิดทางสู่การนำไปใช้ในอากาศยานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ENGINeUS 100 เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนอากาศยานขนาดเล็กและเครื่องบินแบบ hybrid มอเตอร์นี้มีกำลังขับ 100 กิโลวัตต์ โดดเด่นด้วยน้ำหนักที่เบา ประสิทธิภาพสูง และความน่าเชื่อถือ การได้รับการรับรองจาก EASA ยิ่งตอกย้ำความพร้อมของ Safran ในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมการบิน

การพัฒนาอากาศยานไฟฟ้าเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการขนส่งทางอากาศ Safran มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ENGINeUS 100 ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์นี้ การรับรองจาก EASA จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Safran ในการขับเคลื่อนอนาคตของการบินที่ยั่งยืน

ความสำเร็จของ Safran ในครั้งนี้ยังส่งผลดีต่อการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าภาคพื้นดินอีกด้วย เทคโนโลยีที่ใช้ในมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับอากาศยาน เช่น การจัดการความร้อนและการเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ความสำคัญ

**การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า: ง่ายกว่าที่คิด**

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยข้อดีมากมาย ทั้งประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่หลายคนยังกังวลเรื่องการดูแลรักษา ความจริงแล้ว การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด และมีข้อแตกต่างจากรถยนต์สันดาปภายในหลายประการ เช่น ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไม่มีระบบไอเสียที่ซับซ้อน และมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า จึงลดความเสี่ยงต่อการสึกหรอ อย่างไรก็ตาม การตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ ระบบเบรก และยางรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า เช่นเดียวกับเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าในอากาศยานของ Safran ที่เน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอก็เป็นกุญแจสำคัญในการใช้งานอย่างยาวนานและคุ้มค่า

การเลือกศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นสิ่งสำคัญ ช่างเทคนิคควรมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าแรงสูง และมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการตรวจเช็คและซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ไฟฟ้าของคุณจะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัย

#รถEV #EVThailand #ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า #ศูนย์บริการEV

**ลิงก์ที่มา:**

* https://www.electrive.com/2025/02/05/easa-certifies-safrans-electric-aviation-motor/

Leave a Reply