## ยุโรปสู่ยุค EV: ยอดจดทะเบียนใหม่แซงดีเซล แต่บนท้องถนนยังอีกยาวไกล
ข่าวดีสำหรับวงการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คือยอดจดทะเบียนรถ EV ใหม่ในหลายประเทศแถบยุโรปได้แซงหน้ารถยนต์ดีเซลไปแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม รายงาน ‘Vehicles on European Roads’ เผยให้เห็นความจริงอีกด้านว่า จำนวนรถ EV ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนยังคงน้อยมากเมื่อเทียบกับรถยนต์แบบดั้งเดิม นั่นหมายถึงเส้นทางสู่การเปลี่ยนผ่านอย่างสมบูรณ์ยังอีกยาวไกล
[https://www.electrive.com/2025/02/05/acea-1-8-per-cent-of-cars-in-the-eu-were-electric-in-2023/](https://www.electrive.com/2025/02/05/acea-1-8-per-cent-of-cars-in-the-eu-were-electric-in-2023/)
ถึงแม้ยอดขายรถ EV ใหม่จะพุ่งสูงขึ้น แต่สัดส่วนรถ EV ที่ใช้งานจริงบนท้องถนนในสหภาพยุโรปยังอยู่ที่เพียง 1.8% ในปี 2023 ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายในสู่ EV ยังต้องใช้เวลา และต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนอีกหลายด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จ นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ความแตกต่างระหว่างยอดจดทะเบียนใหม่กับจำนวนรถที่ใช้งานจริงนี้ เกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น อายุการใช้งานของรถยนต์แบบดั้งเดิมที่ยาวนาน ราคาของรถ EV ที่ยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปภายใน และความกังวลเกี่ยวกับระยะทางวิ่ง รวมถึงความพร้อมของสถานีชาร์จ
แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถ EV ยังคงสดใส และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ต้นทุนการผลิตที่ลดลง และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ เชื่อว่าสัดส่วนรถ EV บนท้องถนนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
## ดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า: ไม่ยากอย่างที่คิด
การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถยนต์สันดาปภายในในหลายด้าน เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบไอเสียแบบดั้งเดิม ทำให้การบำรุงรักษามีความซับซ้อนน้อยกว่า และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าในระยะยาว สิ่งที่ผู้ใช้รถ EV ควรใส่ใจเป็นพิเศษคือ
* **แบตเตอรี่:** หัวใจสำคัญของรถ EV ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% หรือปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อยๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
* **ระบบเบรก:** รถ EV ใช้ระบบเบรกแบบ regenerative braking ซึ่งช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ทำให้ผ้าเบรกสึกหรอช้ากว่ารถยนต์ทั่วไป
* **ยาง:** ควรเลือกใช้ยางที่ออกแบบมาสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ เนื่องจากมีน้ำหนักที่มากกว่ารถยนต์ทั่วไป และต้องรับแรงบิดสูงจากมอเตอร์ไฟฟ้า
* **ระบบระบายความร้อน:** ตรวจสอบระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบำรุงรักษาตามระยะทางและระยะเวลา เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเบรก น้ำยาหล่อเย็น และไส้กรอง ยังคงจำเป็น แต่ความถี่ในการเปลี่ยนจะน้อยกว่ารถยนต์สันดาปภายใน ควรศึกษารายละเอียดจากคู่มือการใช้งาน และนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการที่ได้รับการรับรอง
#รถEV #EVThailand #ศูนย์บริการEV #ช่างซ่อมรถev