เทคโนโลยีเคลือบขั้วไฟฟ้าตรง ลดต้นทุนแบตเตอรี่ LFP สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

EAS Batteries ร่วมมือกับพันธมิตรวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเคลือบขั้วไฟฟ้าโดยตรงสำหรับแบตเตอรี่ LFP ในโครงการ SkaleD มุ่งลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยลดขั้นตอนและวัสดุ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่ LFP ลดลง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงง่ายขึ้น โครงการนี้ยังปูทางสู่การพัฒนาแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนการดูแลรถยนต์ไฟฟ้า ควรดูแลแบตเตอรี่โดยไม่ชาร์จเต็ม 100% หรือปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยง ควรชาร์จที่ 20-80% และใช้เครื่องชาร์จมาตรฐาน รวมถึงตรวจสอบระบบหล่อเย็น เบรก ยาง และระบบไฟฟ้า และอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย หากมีปัญหาควรปรึกษาศูนย์บริการผู้เชี่ยวชาญ

## ต้นทุนถูกลง แบตเตอรี่ LFP ก้าวหน้าขึ้นด้วยเทคโนโลยีเคลือบขั้วไฟฟ้าโดยตรง

EAS Batteries ได้ริเริ่มโครงการ SkaleD – Scaling extrusion-based direct coating ร่วมกับพันธมิตรวิจัยอีก 5 ราย เพื่อพัฒนาขั้นตอนการเคลือบขั้วไฟฟ้าโดยตรงในการผลิตแบตเตอรี่เซลล์สำหรับอุตสาหกรรม เป้าหมายหลักของโครงการนี้คือการลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง อายุการใช้งานยาวนาน และราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าแบตเตอรี่แบบอื่น

ปัจจุบัน กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ LFP ยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เทคโนโลยีการเคลือบขั้วไฟฟ้าโดยตรงที่พัฒนาในโครงการ SkaleD นี้ จะช่วยลดขั้นตอนการผลิต ลดการใช้วัสดุ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ LFP ลดลงอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาขายรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

ความสำเร็จของโครงการ SkaleD จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ LFP เท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต

การลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ LFP จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านจากยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เร็วขึ้น

## ดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน

การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า แตกต่างจากรถยนต์สันดาปภายในเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือกรองอากาศ แต่ก็ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ต้องดูแลรักษาเพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนาน เช่น การตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็นของแบตเตอรี่ การตรวจสอบระบบเบรก การตรวจสอบและดูแลรักษายางรถยนต์ และการตรวจสอบระบบไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงการอัพเดตซอฟต์แวร์ของรถยนต์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ

การดูแลรักษาแบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% เป็นประจำ และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง การชาร์จแบตเตอรี่ในระดับ 20-80% จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ นอกจากนี้ ควรเลือกใช้เครื่องชาร์จที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ

หากพบปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า ควรปรึกษาศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัย การเลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่มีคุณภาพ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าของคุณจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าของคุณให้ยาวนานยิ่งขึ้น

ลิงก์ที่มา:

* [https://www.electrive.com/2025/02/11/eas-launches-battery-cell-research-project-in-germany/](https://www.electrive.com/2025/02/11/eas-launches-battery-cell-research-project-in-germany/)

#รถEV #EVThailand #ศูนย์บริการEV #ค่าซ่อมรถEVแพงไหม

Leave a Reply