Stellantis ยกระดับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ด้วยแบตเตอรี่ BYD

Stellantis เล็งใช้แบตเตอรี่ LFP จาก BYD ในรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด เพื่อให้สามารถขายรถ EV ได้ต่ำกว่า 20,000 ยูโร ปัจจุบัน Stellantis มีรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง Citroën ë-C3 และ Fiat Grande Panda ที่ใช้แบตเตอรี่ LFP จาก SVOLT แบตเตอรี่ LFP มีข้อดีด้านความปลอดภัย อายุการใช้งานยาวนาน และต้นทุนต่ำ แม้มีความหนาแน่นพลังงานน้อยกว่าแบตเตอรี่แบบ NMC หรือ NCA แต่ก็เหมาะสมกับรถขนาดเล็ก การร่วมมือกับ BYD ช่วยลดต้นทุนการผลิตและการพึ่งพาวัตถุดิบอย่างโคบอลต์และนิกเกิล Stellantis มุ่งมั่นที่จะแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดที่กำลังเติบโต

Stellantis มุ่งสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดยิ่งขึ้นด้วยแบตเตอรี่ BYD

Stellantis ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก กำลังเดินหน้าแผนการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด โดยปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง Citroën ë-C3 และ Fiat Grande Panda ที่ใช้แบตเตอรี่ LFP จาก SVOLT วางจำหน่ายอยู่แล้ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าในราคาต่ำกว่า 20,000 ยูโร Stellantis กำลังพิจารณาใช้แบตเตอรี่ LFP จาก BYD ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน การร่วมมือกับ BYD ครั้งนี้น่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีราคาสูงที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้า และทำให้ Stellantis สามารถนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไป

การเลือกใช้แบตเตอรี่ LFP ซึ่งมีจุดเด่นด้านความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับเริ่มต้น ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ LFP จะมีความหนาแน่นพลังงานน้อยกว่าแบตเตอรี่ชนิด NMC หรือ NCA แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในรถยนต์ขนาดเล็ก และยังช่วยลดความกังวลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ การใช้แบตเตอรี่ LFP ยังช่วยลดการพึ่งพาวัตถุดิบอย่างโคบอลต์และนิกเกิล ซึ่งมีราคาผันผวนและมีประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือระหว่าง Stellantis และ BYD จะเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่มุ่งสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดกำลังทวีความรุนแรงขึ้น และการร่วมมือกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำอย่าง BYD จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Stellantis ในการแข่งขันครั้งนี้

การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า: เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับเจ้าของรถ EV

การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถยนต์สันดาปภายในเล็กน้อย แต่ก็ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด การบำรุงรักษาเชิงป้องกันเป็นกุญแจสำคัญในการยืดอายุการใช้งานของรถ EV ของคุณ รวมถึงแบตเตอรี่ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ

* ตรวจสอบและเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี่และมอเตอร์ตามระยะเวลาที่กำหนด การรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
* ตรวจสอบระบบเบรก แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะใช้ระบบเบรกแบบ regenerative braking แต่ผ้าเบรกยังคงสึกหรอ ดังนั้นควรตรวจสอบและเปลี่ยนเมื่อจำเป็น
* ดูแลรักษายางรถยนต์ การเติมลมยางให้เหมาะสมช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่และลดการสึกหรอของยาง การสลับยางตามระยะก็สำคัญเช่นกัน
* อัปเดตซอฟต์แวร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามักปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและแก้ไขข้อบกพร่อง ควรอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

การดูแลรักษาตามคำแนะนำของผู้ผลิตและการตรวจสอบสภาพรถยนต์เป็นประจำ จะช่วยให้รถ EV ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าจาก Stellantis หรือแบรนด์อื่นๆ การดูแลรักษาที่เหมาะสมคือสิ่งสำคัญ

ลิงก์ที่มา:

* https://www.electrive.com/2025/02/11/stellantis-could-use-lfp-batteries-from-byd/

#รถEV #EVThailand #ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า #ศูนย์บริการEV

Leave a Reply