ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ (BEV) ในสหราชอาณาจักรยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม 2568 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สูงถึง 29,634 คัน เพิ่มขึ้น 41.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 21.3% แม้จะเติบโตอย่างเห็นได้ชัด แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ 22% ที่ตั้งไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายมากขึ้น แม้จะไม่มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใดติดอันดับท็อปเท็นยอดขายรวม แต่รถยนต์ไฮบริดยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรเป็นไปในทิศทางเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น การลดหย่อนภาษี และการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงและมีระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญยังคงอยู่ที่โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟฟ้าที่ยังไม่ครอบคลุม และราคาที่ยังสูงกว่ารถยนต์สันดาปภายใน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนยังลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับผู้ที่กำลังใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า หรือวางแผนที่จะซื้อ การดูแลรักษาที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และระบบต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า ทำให้การบำรุงรักษาโดยรวมง่ายขึ้น เช่น ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง หรือหัวเทียน อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% เป็นประจำ หรือปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง รวมถึงควรจอดรถในที่ร่มเพื่อป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมสภาพจากความร้อน นอกจากนี้ การตรวจสอบระบบเบรก ระบบช่วงล่าง และยางรถยนต์ ก็ยังจำเป็นเช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไป
การเลือกศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นสิ่งสำคัญ ช่างเทคนิคควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าแรงสูง และมีเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมบำรุง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด อย่าลังเลที่จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของศูนย์บริการก่อนนำรถเข้ารับบริการ #รถEV #EVMaintenance #ศูนย์บริการEV #ช่างซ่อมรถev
ลิงก์ที่มา:
* https://www.electrive.com/2025/02/05/uk-ev-market-registrations-continue-to-rise-slower-than-targeted/
หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นข้อมูลข่าวในอนาคต (ปี 2025) จึงใช้ข้อมูลที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้ม ข้อมูลจริงอาจแตกต่างออกไป