ฟอร์ดประกาศขาดทุน 5.1 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า Model e ประจำปี 2024 สูงกว่าปี 2023 สะท้อนความยากลำบากในการทำกำไรในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ที่สูง การแข่งขันที่รุนแรง และการลงทุนมหาศาลเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการขาดทุน ฟอร์ดปรับโครงสร้างผู้บริหาร Model e หวังพลิกสถานการณ์ด้วยกลยุทธ์ใหม่ การปรับตัวสู่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฟอร์ด ต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยี ลดต้นทุน และสร้างความแตกต่างของสินค้าเพื่อดึงดูดลูกค้าและแข่งขัน ฟอร์ดยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนถึงศักยภาพการเติบโตในระยะยาว สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า การดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เช่น ตรวจสอบแบตเตอรี่ ไส้กรองอากาศ ระบบเบรก ยาง และอัปเดตซอฟต์แวร์ สำคัญต่อการยืดอายุการใช้งาน

Vinci Autoroutes กำลังทดสอบเทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้สายบนทางหลวง A10 ใกล้ปารีส ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร โดยใช้รถยนต์ไฟฟ้า 4 คัน เทคโนโลยีนี้ใช้แผ่นส่งพลังงานใต้ถนนชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ที่ติดตั้งตัวรับ ทำให้ชาร์จขณะขับได้โดยไม่ต้องหยุด การทดสอบนี้มุ่งเน้นศึกษาประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเป็นไปได้ในการใช้งานจริง รวมถึงต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากสำเร็จ จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าและถนนอัจฉริยะ แม้เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดข้อจำกัดเรื่องระยะวิ่ง แต่การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอยังสำคัญ รวมถึงการเลือกใช้ศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญ

Volkswagen เผยแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าสองรุ่นใหม่ในปี 2568 คือ ID.1 รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาจับต้องได้ และ T-Roc รุ่นไฟฟ้า SUV ยอดนิยม ID.1 จะมีขนาดใกล้เคียงกับ Polo ส่วน T-Roc ไฟฟ้าจะผลิตที่โรงงาน Wolfsburg การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของ Volkswagen ในการขยายตลาดรถ EV การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า ง่ายกว่ารถยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า แต่ยังต้องดูแลแบตเตอรี่ ระบบเบรก และยาง การเลือกศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญก็สำคัญเช่นกัน

Rocsys บริษัทดัตช์ ได้รับสัญญาติดตั้งระบบหุ่นยนต์ชาร์จไฟฟ้าให้กับรถบรรทุก 30 คันในท่าเรือ APM Terminals Maasvlakte II Rotterdam ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดในยุโรป ระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนโดยหุ่นยนต์จะเชื่อมต่อสายชาร์จกับรถบรรทุกอัตโนมัติ ลดเวลาและความผิดพลาดจากการชาร์จด้วยคน เพิ่มความปลอดภัยและจัดการตารางชาร์จได้ดีขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของท่าเรือ Rotterdam และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ความสำเร็จนี้แสดงถึงศักยภาพของหุ่นยนต์ในการขับเคลื่อนระบบขนส่งที่ยั่งยืน คาดว่าจะขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ยานยนต์ โลจิสติกส์ และขนส่งสาธารณะ

อุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แรงกดดันจากกลุ่มล็อบบี้ยิสต์อาจทำให้ EU ผ่อนปรนข้อห้ามจำหน่ายรถยนต์สันดาปภายในปี 2035 โดย EU กำลังพิจารณาอนุญาตให้จดทะเบียนรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหลังปี 2035 ซึ่งขัดกับนโยบายเดิมที่มุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจกระทบกลยุทธ์ของผู้ผลิตรถยนต์และทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ส่วนผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังไม่ชัดเจนในระยะสั้น แม้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจะซับซ้อน การดูแลรักษากลับง่ายกว่ารถยนต์สันดาป เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์และระบบเชื้อเพลิง เพียงดูแลแบตเตอรี่ เบรก ยาง และระบบไฟฟ้า ควรเลือกศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ (BEV) ในสหราชอาณาจักรเติบโตขึ้น 41.6% ในเดือนมกราคม 2025 มียอดจดทะเบียน 29,634 คัน คิดเป็น 21.3% ของตลาดรวม ต่ำกว่าเป้าหมาย 22% แม้ตลาดเติบโตตามเทรนด์โลกที่ได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม นโยบายภาครัฐ และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น แต่ยังมีอุปสรรคเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จและราคาที่สูง เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าควรดูแลแบตเตอรี่โดยหลีกเลี่ยงการชาร์จเต็มหรือปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยง รวมถึงจอดรถในที่ร่ม การตรวจสอบระบบเบรก ช่วงล่าง และยางก็ยังจำเป็น ควรเลือกศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

Volkswagen เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็ก ID.1 ให้พนักงานชมก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ ภาพเรนเดอร์แรกถูกปล่อยออกมาสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ID.1 คาดว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดในตระกูล ID. โดยใช้แพลตฟอร์ม MEB Entry สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ช่วยลดต้นทุนการผลิต แบตเตอรี่คาดว่ามีขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่นแต่เพียงพอต่อการใช้งาน ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จประมาณ 200-300 กิโลเมตร การเปิดตัว ID.1 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Volkswagen ในการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่าย การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าเช่น ID.1 ง่ายกว่ารถยนต์สันดาป แต่ต้องดูแลแบตเตอรี่, มอเตอร์, เบรก, ช่วงล่าง, และยาง ควรชาร์จแบตเตอรี่ระหว่าง 20-80%, หลีกเลี่ยงการขับขี่แบบกะทันหัน, และตรวจสอบตามระยะ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

Audi เตรียมยุติการผลิต Q8 e-tron ที่โรงงาน Brussels ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แม้จะมีการผลิตต่ออีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ แต่คาดว่าเป็นการเคลียร์ออเดอร์คงค้างก่อนปิดสายการผลิตถาวร การปิดโรงงานครั้งนี้สสท้อนถึงการปรับตัวของ Audi ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเตรียมผลิตรุ่นใหม่หรือปรับกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า เจ้าของ Q8 e-tron ควรศึกษาข้อมูลการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการดูแลแบตเตอรี่ ระบบเบรก ยาง และของเหลว เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดปัญหา การชาร์จแบตเตอรี่ระหว่าง 20-80% ตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ และตรวจสอบระดับของเหลวเป็นประจำ เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ

แบรนด์รถยนต์เยอรมันยังคงประสบปัญหาในการเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน แม้ตลาดจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ยอดขายรวมของ Volkswagen, Audi, BMW, Mercedes-Benz และ Porsche คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเพียง 5% ในปี 2565 และ 6.5% ในปี 2566 เนื่องจากราคาที่สูงกว่า การออกแบบที่ไม่ตรงกับความต้องการ และเครือข่ายสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์จีนอย่าง BYD, NIO, XPeng และ Li Auto ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ สำหรับประเทศไทย ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตเช่นกัน การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้ามีความสำคัญ ผู้ใช้ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและลมยาง ส่วนการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าแรงสูงควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์จีนสร้างทางเลือกและราคาที่แข่งขันได้มากขึ้นสำหรับผู้บริโภค